เลห์ลาดักห์ ต้องสักครั้งในชีวิต

เลห์ลาดักห์ หรือทิเบตน้อยในดินแดนภารตะ วิวทิวทัศน์ที่อลังการตาเหมือนฝันไม่ปล่อยให้ละสายตาแม้ชั่วขณะ บรรยากาศหน้าร้อน อารยธรรมทิเบตผสมผสาน ผู้คน และ เทือกเขาหิมาลัยเป็นอะไรที่ครั้งนึงในชีวิตผู้รักในการเดินทางต้องมาสัมผัส

Julley คำกล่าวทักทายภาษาชาวลาดักห์ที่แปลว่า “สวัสดี ขอบคุณ และลาก่อน”

บ้านเรือนสีน้ำตาล ขาว ตัดกับธงมนตราหลากสีที่โบกสะพัดอยู่รอบเมืองได้อย่างลงตัว สงบและสวยงาม

วันแรก ณ เมืองเลห์

เช้าวันศุกร์หลังจากผ่านสมรภูมิรบที่สนามบินนิวเดลี เราก็ลงเครื่องพร้อมกับวิวทิวทัศน์ของภูเขาหิมาลัยในช่วงหน้าร้อนที่เเห้งแล้งแต่อลังการ บ้านเรือนสีน้ำตาล ขาว ตัดกับธงมนตราหลากสีที่โบกสะพัดอยู่รอบเมืองได้อย่างลงตัว สงบและสวยงาม

เราเข้าที่พักที่ชื่อว่า Reeyul Guesthouse ที่พักขวัญใจชาวไทยแห่งเมืองเลห์ที่บริการทั้งข้าวเช้า-เย็นเเบบไทยๆ ใครที่คิดว่ากินอาหารที่นั่นไม่ได้อยู่ที่นี่ไม่ต้องกังวลเลย เเละเกสเฮ้านี้เองจะเป็นที่พักเราในเลห์อีก 8 คืน (ไว้มีโอกาสจะมารีวิวที่พักอีกรอบ)

การมาถึงเมืองเลห์วันแรกสิ่งที่ต้องทำคือพักผ่อนน~~

ใครคิดว่าตัวเองมีพลังสูง ร่างกายเเข็งเเกร่งเเต่เชื่อเถอะว่าพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3500 เมตรแห่งนี้จะทำให้คุณหมดพลังได้ เดิน 3 ก้าวแล้วหอบ ยา Diamox คือสิ่งสำคัญและควรพกมาเพราะยาเม็ดนี้จะช่วยเพิ่มพลังกายให้คุณต่อสู้กับความสูงได้และจะช่วยให้คุณอยู่ในเลห์ได้โดยปลอดภัยไม่มีอาการแพ้ความสูง

วิวเทิอกเขาหิมาลัยเห็นได้ทุกมุมจากตัวเมือง

Leh Market – ตลาดในเมือง ดูผู้คน กิน appricot pie

หลังจากการพักผ่อนปรับสภาพ สิ่งเดียวที่สามารถทำได้คือการเดินเล่นในระแวกเมือง สำหรับเมืองเลห์ที่เรียกว่าเมืองนั้นก็ไม่ได้กว้างขวางมากนัก โดยเฉพาะในส่วนของตลาด จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับช่วงวันแรกของเรา

5 นาทีคือเวลาที่เราใช้ในการเดินจากที่พักไปยัง Leh market ความบังเอิญแรกนั้นคือวันที่เราไปถึงเป็นช่วงเทศกาลอาหารและเป็นวันสุดท้ายที่จัดงานนั้นพอดี ก็เลยได้ดูชิมอาหารของชาวเลห์ โมโม่คืออย่างแรกที่เราชิม และอาหารส่วนใหญ่ของที่นี่จะออกรสชาติจืดเป็นหลัก

เราเดินตระเวนรอบๆตลาดสักพัก ถึงแม้จะเล็กๆแต่สวยงามเเละมีมนต์เสนห์อะไรบางอย่างที่ทำให้ทั้งทริปต้องกลับไปอยู่ไปเดินแถวนั้นตลอด ธงมนตราหลากสีที่สะบัด ไฟสีส้มเหลืองอบอุ่นในช่วงอากาศเริ่มเย็น วิวของภูเขาหิมาลัยโอบรอบเป็นพื้นหลังยิ่งขับให้พื้นที่นี่น่าค้นหา…

ถึงแม้จะเล็กๆแต่สวยงามเเละมีมนต์เสนห์อะไรบางอย่าง…

เราจบวันด้วยขนมหวาน Appricot pie ขึ้นชื่อของที่นี่ในช่วงหน้าร้อน รสชาติแอปริคอทหวานหอมยิ่งได้ทานลงตัวเมื่ออยู่บนแป้งพาย ที่สำคัญราคาถูกมาก 50 บาทสำหรับพายชื้นใหญ่ ถ้าอยู่ไทยคงชิ้นนึงเป็นร้อยเลยอยากแนะนำสำหรับใครที่มาเลห์หน้าร้อนก็อย่าลืมชิมพายแอปริคอทกันด้วยนะ

เดียวโพสหน้าๆ เราจะพาเพื่อนๆตลุยและเรียนรู้ดินแดนทิเบตน้อยนี้ไปด้วยกัน มีเรื่องเล่าอีกมากมายที่จดไว้เเล้วอยากเล่าให้ฟัง

_____________________________________________________

7 Tip เล็กน้อยสำหรับใครที่ต้องการเที่ยวเลห์ลาดัคในช่วงหน้าร้อน (เมษายน – กรกฎาคม)

  • เสื้อกันหนาวยังคงสำคัญ เผื่อเดินทางไปยังที่ไกล Nubra / Pangong ตอนกลางคืนหนาวมากก
  • เสื้อยืดและขาสั้นสำหรับเดินในเมือง วันไหนร้อนคือร้อนมากก ตับเเล่บ
  • แมส ผ้ากันฝุ่น สำคัญมากๆ สำหรับการเดินทางโดยใช้รถที่นี่จะเปิดหน้าต่าง ยิ่งระหว่างทางฝุ่นจะเยอะมากด้วยรอบข้างเป็นภูเขาดิน ทราย จะทำให้เเสบจมูกมากก ดังนั้นแมสกับผ้ากันฝุ่นจะช่วยตรงนี้มากๆเลย
  • กันแดด SPF สูงๆไปเลย เพราะเเดดจัดมากก อากาศก็แห้ง อาจจะทำให้หน้าไหม้
  • ของกิน ของใช้ ที่นี่มีครบเลยทั้งอาหารแห้ง ครีม ของใช้ส่วนตัวโดยไม่จำเป็นต้องขนมาจากไทยเลย  ที่สำคัญราคาถูกกว่ามาก
  • เตรียมเมมโมรี่การ์ดความจุเยอะๆ เพราะคุณจะถ่ายรูปทุกเส้นทางที่ผ่านแน่นอน
  • ท้ายสุดเตรียมใจ…เพราะเลห์ลาดักหน้าร้อนสวยมากกกกกก!!!

______________________________________________________

Julley เเล้วเจอกันใหม่ครับ :)))

หากชอบคอนเทนต์นี้ อย่าลืมให้กำลังใจผมด้วยการกด Share

และสามารถติดตามได้ที่ช่องทาง https://www.instagram.com/dylanmrn

สำหรับใครที่ไม่ชอบอ่านก็ดูเป็นภาพเคลื่อนไหวได้บนยูทูปได้เลยครับ