
ใต้เเสงแดดเนปาลหน้าร้อน 5 วัน 4 คืนแบบไม่เทรค
“แม่จะไปเนปาลนะไปเที่ยวเนปาลช่วงไหนดีวิน” คำถามที่แม่โยนมาให้ตั้งคำถามกับตัวเองว่านี่คำถามหรือคำขิง ก็เลยตอบแบบส่งเดชทั้งที่ในใจก็ไม่ได้อยากไปไปว่า “ก็ไปช่วงหยุดยาวสงกานต์สิ เนปาลช่วงนั้นน่าจะกำลังสวย” และแล้วหลังจากจบบทสนทนานี้ กระเป๋าแพ็ค กล้องพร้อม ตั๋วจอง และการเดินทางไปเที่ยวเนปาลหน้าร้อนก็ได้เริ่มต้นขึ้น… เนปาลหน้าร้อนมีอะไรหน้าสนใจ “ไปเที่ยวเนปาลหน้าร้อนนี่นะ?” “ไปเนปาลและไม่เดินเทรคอีกหรอ?” คำถามเหล่านี้ถูกโยนเข้ามาทำให้ไขว้เขวเล็กน้อยก่อนทริปจะเริ่มในอีกไม่กี่อาทิตย์ก่อนไป จนต้องย้อนกลับมาถามตัวเองว่าเอ้อนั่นสิมันจะคุ้มมั้ยอุตส่าเสียเงินจองทริปไปแล้วกับการเดินทางครั้งนี้ ไปแล้วไม่เดินเทรคอีกเนี่ย แต่จะคุ้มไม้คุ้มก็คุ้มก็จองทริปไปแล้วและโอกาสได้เที่ยวก็นานๆทีที่จะได้ไปสัมผัสเมืองมรดกโลกที่ครั้งนึงเราฝันไว้ว่าต้องไปเหยียบให้ได้มันก็ต้อง…คุ้มสิ! เขียนมาถึงตรงนี้เพื่อนๆคิดว่าคุ้มมั้ยล่ะครับ? | โอบกอดโดยหุบเขาหิมาลัย เมืองแห่งงานไม้และมนตร์เสนห์ชาวเนปาลี ถึงกาฐมาณฑุ กว่า 10 ชั่วโมงบนเครื่องบิน

เลห์ลาดักห์ ต้องสักครั้งในชีวิต
เลห์ลาดักห์ หรือทิเบตน้อยในดินแดนภารตะ วิวทิวทัศน์ที่อลังการตาเหมือนฝันไม่ปล่อยให้ละสายตาแม้ชั่วขณะ บรรยากาศหน้าร้อน อารยธรรมทิเบตผสมผสาน ผู้คน และ เทือกเขาหิมาลัยเป็นอะไรที่ครั้งนึงในชีวิตผู้รักในการเดินทางต้องมาสัมผัส Julley คำกล่าวทักทายภาษาชาวลาดักห์ที่แปลว่า “สวัสดี ขอบคุณ และลาก่อน” บ้านเรือนสีน้ำตาล ขาว ตัดกับธงมนตราหลากสีที่โบกสะพัดอยู่รอบเมืองได้อย่างลงตัว สงบและสวยงาม วันแรก ณ เมืองเลห์ เช้าวันศุกร์หลังจากผ่านสมรภูมิรบที่สนามบินนิวเดลี เราก็ลงเครื่องพร้อมกับวิวทิวทัศน์ของภูเขาหิมาลัยในช่วงหน้าร้อนที่เเห้งแล้งแต่อลังการ บ้านเรือนสีน้ำตาล ขาว ตัดกับธงมนตราหลากสีที่โบกสะพัดอยู่รอบเมืองได้อย่างลงตัว